วันศุกร์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2553

ห้องสมุด 3 ดี

ห้องสมุด 3 ดี + 3 ' D บรรณารักษ์ทุกคนปรับ Look ใหม่ สร้างบรรยากาศห้องสมุดให้อบอุ่นและเป็นมิตร พร้อมทั้งสรรหาหนังสือที่ดีไว้ในห้องสมุด โดยเฉพาะหนังสือที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้ทรงพระราชทานรายชื่อหนังสือดีที่น่าอ่านสำหรับเด็กและเยาวชนไทย ๖ เรื่อง และหนังสือที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงให้คำแนะนำไว้ อ่านข่าวเรื่องห้องสมุด 3 ดี ขอเล่าสู่กันฟังต่ออีกช่องทาง ณ โรงแรมปรินซ์ พาเลซ มหานาค - นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวในพิธีเปิดการประชุมสัมมนาบรรณารักษ์และเจ้าหน้าที่ห้องสมุดประชาชนทั่วประเทศ ตามโครงการพัฒนาห้องสมุด ๓ ดี เมื่อวันที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๒ ว่า ต้องการให้บรรณารักษ์ทุกคนปรับ Look ใหม่ สร้างบรรยากาศห้องสมุดให้อบอุ่นและเป็นมิตร พร้อมทั้งสรรหาหนังสือที่ดีไว้ในห้องสมุด โดยเฉพาะหนังสือที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้ทรงพระราชทานรายชื่อหนังสือดีที่น่าอ่านสำหรับเด็กและเยาวชนไทย ๖ เรื่อง และหนังสือที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงให้คำแนะนำไว้
รมว.ศธ.กล่าวแก่บรรณารักษ์และเจ้าหน้าที่ห้องสมุดประชาชน สังกัดสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ทั่วประเทศจำนวน ๘๕๒ คนว่า รัฐบาลชุดนี้ได้ให้ความสำคัญกับงานด้านการศึกษาเป็นลำดับต้นๆ หากมองในแง่งบประมาณ กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้รับงบประมาณมากเป็นอันดับ ๑ โดยได้รับงบประมาณมากถึง ๓.๕ แสนล้านบาท นอกจากนี้ยังได้รับงบฯ ไทยเข้มแข็งอีก ๕ หมื่นล้านบาท เพราะฉะนั้น ศธ.ได้รับงบประมาณปี ๒๕๕๓ กว่า ๔ แสนล้านบาท ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในประวัติศาสตร์หรือคิดเป็น ๓.๘% ของ GDP และเมื่อเทียบกับประเทศกำลังพัฒนาถือว่าสูงเป็นลำดับต้นๆ
รมว.ศธ.กล่าวถึงงานที่จะทำต่อไปของบรรณารักษ์ว่า จะต้องยึดถือตามทิศทางการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง (พ.ศ.๒๕๕๒-๒๕๖๑) เป็นกรอบงานใหญ่ ทั้งการทำงานในปีนี้และ ๑๐ ปีข้างหน้า มิฉะนั้นจะเดินไปแบบไร้ทิศทาง ซึ่งเป้าหมายหลักของการปฏิรูปการศึกษาคือ "การให้คนไทยได้เรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ" ดังนั้นบรรณารักษ์จึงจำเป็นจะต้องไปดูว่าอยู่ส่วนไหนของการปฏิรูปการศึกษา ที่จะมุ่งเน้นใน ๓ เสาหลัก คือ คุณภาพ การขยายโอกาสทางการศึกษา และการมีส่วนร่วม ซึ่งทุกหน่วยงานจะต้องรับไปปฏิบัติ เพราะจะต้องมีเกณฑ์การประเมินเช่นเดียวกันในทุกหน่วยงานทั้งการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย ตามนโยบาย "๓ ดี ๔ ใหม่" (๓ ดี/D คือ Decency-Democracy-Drug-Free ส่วน ๔ ใหม่คือ สร้างคนไทยหรือผู้เรียนยุคใหม่-ครูยุคใหม่-ระบบบริหารจัดการแบบใหม่-แหล่งเรียนรู้หรือสถานศึกษายุคใหม่) สำหรับการศึกษาตามอัธยาศัย จะมีส่วนสำคัญช่วยให้เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต ซึ่งมีองค์ประกอบที่สำคัญ ๓ ส่วน คือ ผู้เรียน องค์ความรู้ และแหล่งเรียนรู้

รมว.ศธ.กล่าวว่า ในปีหน้าจะมีการเพิ่มห้องสมุด ซึ่งถือเป็นแหล่งเรียนรู้แบบก้าวกระโดด โดยจะจัดสร้างห้องสมุดประชาชนเพิ่มขึ้น ๑๕๐ แห่งภายใน ๓ ปี ขณะเดียวกันจะจัดสร้างห้องสมุดเฉลิมราชกุมารีเพิ่มใหม่มากถึง ๑๐ แห่งในปีนี้ พร้อมทั้งสร้างคุณภาพควบคู่ไปพร้อมกับงบประมาณในการจัดสร้างและปรับปรุงห้องสมุดที่เพิ่มขึ้นด้วย ดังนั้นแนวคิดของห้องสมุด ๓ ดี จึงเกิดขึ้น คือ การมีหนังสือดี-บรรยากาศดี-บรรณารักษ์และเจ้าหน้าที่ห้องสมุดดี

หนังสือดี สิ่งที่อยากฝากให้ช่วยกันคิดว่า จะทำอย่างไรในการจัดหาหนังสือดีๆ ซึ่งอย่างน้อยที่สุดห้องสมุดทุกแห่งจะต้องมีหนังสือที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้ทรงพระราชทานรายชื่อหนังสือดีที่น่าอ่านสำหรับเด็กและเยาวชนไทย ๖ เรื่อง คือ พระอภัยมณี รามเกียรติ์ นิทานชาดก อิเหนา พระราชพิธีสิบสองเดือน กาพย์เห่เรือเจ้าฟ้ากุ้ง (เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร) รวมทั้งหนังสือที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้ทรงให้คำแนะนำไว้ นอกจากนั้นจะต้องให้ประชาชน ผู้เรียน หรือผู้ใช้บริการห้องสมุด ได้มีส่วนร่วมในการจัดหาหนังสือดีๆ ด้วย สำหรับเรื่อง e-Book ต้องเข้าไปดูราคาที่จะจัดซื้อเพื่อให้ได้หนังสือที่มีคุณค่ามากที่สุด ประหยัดงบประมาณมากที่สุด การจัดซื้อหนังสือที่เหมือนกันกับหน่วยงานอื่นๆ ควรไปเทียบเคียงกับการจัดซื้อของหน่วยงานอื่นๆ เช่น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ว่าได้ส่วนลดจากราคาหน้าปกเท่าไร เป็นต้น

บรรยากาศดี บรรยากาศที่ช่วยส่งเสริมการอ่าน การสร้างห้องสมุดจึงควรทำให้เป็นสถานที่อบอุ่นและเป็นมิตร เพราะถ้ามองภาพผู้ใช้บริการเดินเข้าไปในห้องสมุดแล้วไปพบเสือ ๒ ตัวนั่งอยู่หน้าห้องสมุด ก็คงไม่มีใครอยากเข้าไป ซึ่งจะทำให้กลายเป็นห้องเสือเฝ้าหนังสือ จากการที่เคยไปเยี่ยมชมห้องสมุดที่สิงคโปร์แห่งหนึ่ง ถือหลักสำคัญคือเป็น Green Library ที่จัดให้มีบรรยากาศสีเขียว มีต้นไม้ร่มรื่น

บรรณารักษ์และเจ้าหน้าที่ห้องสมุดดี อยากเห็นบรรณารักษ์ทุกคนปรับ New Look หรือปรับโฉมใหม่ ถ้าสมมุติว่าบรรณารักษ์ส่วนใหญ่ปรับลุ๊คใหม่ไปแล้ว ๘๐% ก็ขอให้เพิ่มอีก ๒๐% ให้ครบร้อย เพื่อให้บรรณารักษ์ทุกคนปรับลุ๊คใหม่ ทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ ซึ่งหวังว่าการสัมมนาครั้งนี้จะมีส่วนสำคัญช่วยให้เรานำสิ่งดีๆ กลับไปด้วย นอกจากนี้ การเป็นบรรณารักษ์ที่ กศน.อยากเห็น เพื่อให้ห้องสมุด กศน.เป็นแหล่งเรียนรู้ยุคใหม่อย่างแท้จริง คือ มีความเป็นมืออาชีพ-มีจิตอาสา จิตบริการ-มีการพัฒนาตนเองอยู่เสมอ

รมว.ศธ.กล่าวย้ำด้วยว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือ ได้ทราบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงสนพระทัยในกิจการห้องสมุดของ กศน. และห้องสมุดเฉลิมราชกุมารี มาโดยตลอด ดังนั้นสิ่งใดที่ทรงพระราชทานข้อคิดต่างๆ ไว้ เราจะน้อมใส่เกล้าใส่กระหม่อมนำไปปฏิบัติให้เกิดสัมฤทธิผลทุกประการ เพื่อความเป็นศิริมงคล ความก้าวหน้า อันจะนำไปสู่การพัฒนาห้องสมุดให้เป็นแหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิตสำหรับคนไทยต่อไป.

อ้างอิงมาจาก http://gotoknow.org/blog/siriwanbanthaen/311302

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น